พรบ.ควบคุมน้ำมัน พ.ศ. 2542
กฎกระทรวงสถานที่เก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิง
กฎกระทรวงสถานที่เก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิง
ลำดับที่ | หมายเลขคดี | ประเภททรัพย์ | ขนาด | ตำบล | อำเภอ | จังหวัด | ราคาประเมิน | |||
การขาย | ไร่ | งาน | ตร.วา | (บาท) | ||||||
Jan-00 | ย.412/2545 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 19 | ลำผักกูด | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 561,640 | |
Jan-00 | พ.14513/2549 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 34 | บึงยี่โถ | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 700,500 | |
Jan-00 | ย.111/2549 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 18 | บึงลาดสวาย | ลำลูกกา | ปทุมธานี | 831,300 | |
Jan-00 | ย.769/2547 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 45 | คลองหนึ่ง | คลองหลวง | ปทุมธานี | 1,557,000 | |
1-Jan | 1327/2544 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 60 | ลาดสวาย | ลำลูกกา | ปทุมธานี | 1,350,000 | |
2-Jan | 1327/2544 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 30 | ลาดสวาย | ลำลูกกา | ปทุมธานี | 750,000 | |
Feb-00 | 433/2543 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 19 | พืชอุดม | ลำลูกกา | ปทุมธานี | 729,600 | |
Feb-00 | พ.4993/2551 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 18 | คูคต | ลำลูกกา | ปทุมธานี | 1,116,000 | |
Feb-00 | 7713/2550 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 42 | ประชาธิปัตย์ | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 2,474,000 | |
Feb-00 | ย.140/2549 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 24 | บึงน้ำรักษ์ | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 470,350 | |
1-Feb | 7718/2542 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 80 | บึงสนั่น | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 760,000 | |
5-Feb | 7718/2542 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 80 | บึงสนั่น | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 1,531,000 | |
Mar-00 | ย.4683/2542 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 13 | ประชาธิปัตย์ | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 569,200 | |
Mar-00 | 17176/2538 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 21 | ลำผักกูด | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 450,500 | |
Mar-00 | ย.371/2545 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 3 | 46 | คลองห้า | คลองหลวง | ปทุมธานี | 1,534,500 | |
Mar-00 | ย.371/2545 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 1 | 69 | คลองห้า | คลองหลวง | ปทุมธานี | 1,534,500 | |
Mar-00 | ย.371/2545 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 72 | คลองห้า | คลองหลวง | ปทุมธานี | 1,534,500 | |
Mar-00 | ย.371/2545 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 36 | คลองห้า | คลองหลวง | ปทุมธานี | 1,534,500 | |
Mar-00 | ย.866/2548 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 50 | ลาดสวาย | ลำลูกกา | ปทุมธานี | 405,300 | |
Apr-00 | 1047/2545 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 17 | ลำผักกูด | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 550,500 | |
Apr-00 | ย.1086/2550 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 46 | ประชาธิปัตย์ | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 2,658,000 | |
Apr-00 | ย.2273/2545 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 21 | คลองหก | คลองหลวง | ปทุมธานี | 215,500 | |
May-00 | ม.6363/2550 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 30 | รังสิต | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 1,081,800 | |
May-00 | 1858/2550 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 18 | ลำผักกูด | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 508,000 | |
May-00 | ม.4972/2550 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 21 | บึงน้ำรักษ์ | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 501,200 | |
May-00 | 332/2536 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 30 | คูคต | ลำลูกกา | ปทุมธานี | 1,400,000 | |
May-00 | 332/2536 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 30 | คูคต | ลำลูกกา | ปทุมธานี | 1,400,000 | |
May-00 | พ.7447/2549 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 16 | คลองสอง | คลองหลวง | ปทุมธานี | 600,800 | |
Jun-00 | 23269/2540 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 35 | ประชาธิปัตย์ | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 1,475,000 | |
Jun-00 | 9127/2548 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 31 | บึงยี่โถ | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 1,817,920 | |
Jun-00 | 2272/2547 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 19 | บึงน้ำรักษ์ | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 628,250 | |
Jun-00 | พ.8613/2551 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 18 | คลองสาม | คลองหลวง | ปทุมธานี | 746,400 | |
Jun-00 | ย.303/2548 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 74 | คูคต | ลำลูกกา | ปทุมธานี | 1,842,000 | |
Jul-00 | ธ.643/2550 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 1 | 24 | บึงยี่โถ | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 2,747,000 | |
Jul-00 | 2422/2549 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 20 | คลองสาม | คลองหลวง | ปทุมธานี | 525,000 | |
Jul-00 | 20478/2538 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 1 | 11 | คูคต | ลำลูกกา | ปทุมธานี | 3,020,000 | |
Jul-00 | พ.23578/2549 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 36 | ลาดสวาย | ลำลูกกา | ปทุมธานี | 1,308,000 | |
1-Jul | ส.948/2547 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 1 | 0 | 99 | คลองหนึ่ง | คลองหลวง | ปทุมธานี | 4,044,500 | |
1-Jul | ส.948/2547 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 23 | ประชาธิปัตย์ | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 4,044,500 | |
2-Jul | ส.948/2547 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 55 | ประชาธิปัตย์ | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 1,706,800 | |
Aug-00 | ม.2862/2550 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 18 | ลำผักกูด | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 421,200 | |
Aug-00 | 494/2549 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 92 | ลาดสวาย | ลำลูกกา | ปทุมธานี | 652,800 | |
Aug-00 | พ.21970/2549 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 40 | คลองหก | คลองหลวง | ปทุมธานี | 873,600 | |
Aug-00 | ย.237/2551 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 20 | ลำลูกกา | ลำลูกกา | ปทุมธานี | 457,600 | |
Aug-00 | 03371/2547 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 20 | ประชาธิปัตย์ | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 1,312,000 | |
Aug-00 | 1239/2543 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 6 | 1 | 73 | ลำไทร | ลำลูกกา | ปทุมธานี | 5,566,000 | |
Sep-00 | 3651/2547 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 18 | ลำลูกกา | ลำลูกกา | ปทุมธานี | 1,029,600 | |
Sep-00 | ม.2340/2549 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 16 | คลองสอง | คลองหลวง | ปทุมธานี | 438,000 | |
Sep-00 | ม.424/2551 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 18 | ลาดสวาย | ลำลูกกา | ปทุมธานี | 725,760 | |
Sep-00 | ม.4672/2549 | ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง | 0 | 0 | 16 | รังสิต | ธัญบุรี | ปทุมธานี | 664,800 | |
ผลการค้นหา พบ 881 รายการ หน้าที่ 1/18 |
สำนักงานบังคับคดีจังหวัดปทุมธานี สาขาธัญบุรี ประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ทุกวันพุธ และวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9.30 น.เป็นต้นไป
โดย… นายประยูร แสงเทศ 12/10 หมู่ 5 ตำบลบึงชำอ้อ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี
นายประยูร แสงเทศ ประธานกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์บึงชำอ้อ มีสมาชิกกลุ่ม 232 คนได้มีการประชุมผู้เลี้ยงสัตว์ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ซึ่งกันและกันเดือนละ 2ครั้ง ทำให้สมาชิกมีการเลี้ยงสัตว์กันหลากหลาย ทั้งโค- กระบือ แพะ และไก่พื้นเมือง
สำหรับตัวของนายประยูรเองนั้น เป็นเกษตรกรที่จะมุ่งพัฒนาอาชีพการเลี้ยงสัตว์ของตนเองมาโดยตลอด มีการประสานงานกับ คณะสัตวบาล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน อยู่ตลอดเวลา จนอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เห็นความมุ่งมั่นและความตั้งใจจริง จึงได้มาเยี่ยมและให้คำปรึกษาอยู่เสมอ อีกทั้งยังให้ยืมพ่อโคพันธุ์กำแพงแสน มาปรับปรุงพันธุ์โคของกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์กลุ่มนี้อีกด้วย
สิ่งที่นายประยูร แสงเทศ ได้พัฒนารูปแบบการเลี้ยงโค และนำมูลโคมาใช้เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรของตน จนเป็นที่ยอมรับของสมาชิกกลุ่มและเกษตรกรโดยทั่วไป คือการนำมูลโคใช้เป็นอาหารสำหรับปลานิล และนำไปใช้ในการผลิตปุ๋ยอัดเม็ด และที่น่ายกย่องชมเชยในความคิดของนายประยูร คือการขยายผลจากน้ำในบ่อเลี้ยงปลานิล ซึ่งอุดมไปด้วยปุ๋ยต่างๆจากมูลโคที่เหลือ ได้ถูกนำไปใส่ในแปลงนาข้าว และสวนไผ่ตง ซึ่งสร้างรายได้ให้กับนายประยูร ได้อย่างน่าพอใจอีกด้วย
รายได้ของนายประยูรในแต่ละปี นอกจากการเลี้ยงโคแล้ว ยังมีรายได้จากการเลี้ยงปลานิลปีละ 4 แสนบาท จากนาข้าวปีละ 3.5 แสนบาท จากไผ่ตงปีละ 1 แสนบาท และยังขายมูลโคส่วนที่เหลือใช้ให้กับโรงงานผลิตปุ๋ยอัดเม็ด (ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน) อีกประมาณ 3 หมื่นบาท อีกด้วย นับเป็นการสร้างรายได้ที่ดี และน่าจะเป็นตัวอย่างให้กับเกษตรกรทั่วไป ความคิดของนายประยูร ยังไม่หยุดอยู่เท่านี้ การที่ได้ยิน ได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้นายประยูรคิดจะนำมูลโคมาผลิตเป็นแก๊สชีวภาพใช้ในครัวเรือน และใช้กับโรงผลิตปุ๋ยอัดเม็ดอีกด้วย
นอกจากที่กล่าวมาแล้วนั้น ยังมีอีกกระบวนการหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยกว่ากัน คือ การใช้ประโยชน์จากผักตบชวา ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายและมีอยู่ทั่วไป นายประยูรได้นำผักตบชวามาปล่อยในบ่อปลานิลเพื่อใช้เป็นสิ่งที่ช่วยบังแสงแดดลดความร้อนให้กับลูกปลานิลในขณะที่ยังเป็นลูกปลาเล็กๆอยู่ และเมื่อปลานิลมีขนาดโตใกล้ที่จะจับส่งขายได้ นายประยูรได้นำเชื้อจุลินทรีย์เทราดไปย่อยสลายผักตบชวาในบ่อปลานิล ซึ่งผักตบชวามีการขยายพันธุ์อยู่ในบ่อปลาจำนวนมาก เมื่อผักตบชวาถูกย่อยสลาย จะกลายไปเป็นอาหารปลานิลได้อีกด้วย ส่วนของผักตบชวาที่เหลือในบ่อปลานิล นายประยูรได้นำไปใช้กับโรงงานผลิตปุ๋ยอัดเม็ดในชุมชนได้อีก จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่น่าสนใจ ในการนำผักตบชวาที่มีอยู่ทั่วไปในประเทศไทยมาใช้ประโยชน์ หากมีการนำผักตบชวามาใช้ประโยชน์กันมากขึ้นนอกจากจะเป็นรายได้เพิ่มเติมแล้ว ยังเป็นการลดปริมาณผักตบชวาในแม่น้ำลำคลองต่างๆ ได้อีกด้วย
นายประยูร แสงเทศ จึงนับได้ว่าเป็นเกษตรกรตัวอย่างที่น่าให้การยกย่อง ชมเชย และควรที่เกษตรกรทั่วไปจะนำไปเป็นแบบอย่าง
… ประชาสัมพันธ์โดย สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดปทุมธานี .
|
เมื่อปี พ.ศ.2497 ได้มีการตราพระราชบัญญัติประกันสังคมขึ้น แต่รัฐบาลได้พิจารณาเห็นว่า สภาพทางเศรษฐกิจในขณะนั้น ยังไม่พร้อมที่ จะนำพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2497 ออกใช้บังคับจึงมิได้มีการตราพระราชกฤษฎีกาออกมาบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2515 รัฐบาลโดยคณะปฏิวัติพิจารณาว่า ลูกจ้างซึ่งประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยหรือถึงแก่ความตาย |
เนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้างควรมีหลักประกันว่าจะได้รับเงินทดแทน จึงได้ออกประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 103 ลงวันที่ 16 มีนาคม 2515 ได้จัดตั้งกองทุนเงินทดแทนขึ้นในกรมแรงงาน โดยมีเจตนารมณ์ที่จะให้หลักประกันแก่ลูกจ้างที่เจ็บป่วยประสบอันตรายเนื่องจากการทำงาน ประกาศคณะปฏิวัติฉบับนี้กำหนดให้นายจ้างเป็นผู้ส่งเงินสมทบให้แก่กองทุนเงินทดแทน เพื่อใช้ในการจ่ายเงินทดแทนให้แก่ลูกจ้างแทนนายจ้าง เป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าทดแทนการขาดรายได้รายเดือน ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน ค่าทำศพ งนี้นายจ้างต้องจ่ายเงินสมทบเพียงฝ่ายเดียวตามความเสี่ยงของประเภทกิจการนั้นๆ ในอัตราร้อยละ 0.2-2.0 กองทุนเงินทดแทนได้เริ่มบริหารกองทุน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2517 เป็นต้นมา โดยขึ้นอยู่กับกรมแรงงาน นับได้ว่าเป็นก้าวแรกของการประกันสังคมอย่างแท้จริงนินการเพื่อผลักดันการประกันสังคมให้เต็มรูปแบบ ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหลายคณะเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ จนกระทั่งปลายปี พ.ศ. 2524 คณะกรรมการเตรียมการประกันสังคมซึ่งมีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน ได้ยกร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ขึ้นใหม่ รวมทั้งแนวทางการดำเนินการ การจัดองค์กรบริหารและกองทุนเงินสมทบ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่ง พ.ศ. 2533 ร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ก็ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2533 เป็นต้นมา พระราชบัญญัตินี้จะให้หลักประกันแก่ลูกจ้างผู้ประกันตน |
โรคไข้กาฬหลังแอ่นคือเป็นโรคติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงโรคนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ Neisseria meningitidis เชื้อตัวนี้แบ่งออกเป็น 13 กลุ่มแต่กลุ่มที่ทำให้เกิดโรคได้บ่อยคือชนิด groups B and C เชื้อนี้สามารถตรวจพบในคอของคนปกติร้อยละ 20โดยที่ไม่เกิดโรคหรืออาการ แต่มีผู้ป่วยบางท่านที่เชื้อนี้เข้ากระแสเลือดและทำให้เกิดโรค โดยมากเป็นกับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีและช่วงอายุ 15-24 ปี เป็นโรคที่พบไม่บ่อยแต่อันตรายถึงชีวิตอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 5-10 แม้ว่าจะให้การรักษาอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม การติดเชื้อมีได้ 2 ลักษณะคือ
นอกจากเยื่อหุ้มสมองแล้ว เชื้อนี้ยังสามารถทำให้เกิดโรคที่ ข้อ ปอดบวม
การติดต่อ มีการสัมผัสกับผู้ป่วยทาง
เชื้อนี้จะติดต่อทางน้ำลายหรือเสมหะโดยการสูบบุหรี่ร่วมกัน ดื่มน้ำแก้วเดียวกัน จูบปากกัน หรือผายปอดช่วยชีวิต
ระยะฝักตัวของโรค
ระยะติดต่อ