
โรคไข้กาฬหลังแอ่นคือเป็นโรคติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงโรคนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ Neisseria meningitidis เชื้อตัวนี้แบ่งออกเป็น 13 กลุ่มแต่กลุ่มที่ทำให้เกิดโรคได้บ่อยคือชนิด groups B and C เชื้อนี้สามารถตรวจพบในคอของคนปกติร้อยละ 20โดยที่ไม่เกิดโรคหรืออาการ แต่มีผู้ป่วยบางท่านที่เชื้อนี้เข้ากระแสเลือดและทำให้เกิดโรค โดยมากเป็นกับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีและช่วงอายุ 15-24 ปี เป็นโรคที่พบไม่บ่อยแต่อันตรายถึงชีวิตอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 5-10 แม้ว่าจะให้การรักษาอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม การติดเชื้อมีได้ 2 ลักษณะคือ
- การติดเชื้อธรรมดา
- ยื่อหุ้มสมองอักเสบ meningitis อัตราการเสียชีวิตร้อยละ3
- โลหิตเป็นพิษ meningococcemia อัตราการเสียชีวิตร้อยละ50
นอกจากเยื่อหุ้มสมองแล้ว เชื้อนี้ยังสามารถทำให้เกิดโรคที่ ข้อ ปอดบวม
การติดต่อ มีการสัมผัสกับผู้ป่วยทาง
- เยื่อเมือกในปากและจมูก เช่นการจูบ การเป่าปากและจมูก หรือหน้าใกล้ชิดกันเป็นเวลานาน
- เสมหะหรือน้ำลายผู้ป่วย
เชื้อนี้จะติดต่อทางน้ำลายหรือเสมหะโดยการสูบบุหรี่ร่วมกัน ดื่มน้ำแก้วเดียวกัน จูบปากกัน หรือผายปอดช่วยชีวิต
ระยะฝักตัวของโรค
- ระยะฝักตัว(ระยะเวลาตั้งแต่รับเชื้อโรคจนกระทั่งเกิดอาการของโรค)ประมาณ3-4 วันโดยเฉลี่ย 1-10 วัน
ระยะติดต่อ
- เชื้อนี้สามารถติดต่อไปสู่คนอื่นตราบที่ยังพบเชื้อนี้อยู่ แต่หลังจากให้ยา 24 ชั่วโมงแล้วจะไม่ติดต่อ

หน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบด้านอาหารของประเทศแคนาดา (The Canadian Food Inspection Agency (CFIA)) รายงานว่าพบการระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่ H1N1 (Human Swine Influenza)ในฝูงสุกรใน Alberta โดยสุกรน่าจะได้รับเชื้อมาจากคนที่เดินทางกลับมาจากประเทศเม็กซิโกและแสดงอาการของไข้หวัด ทั้งนี้สุกรที่ป่วยทั้งหมดได้หายเป็นปกติแล้ว
ฝูงสุกรทั้งหมด ถูกกัก และหน่วยงาน CFIA ได้ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อที่จะหาวิธีการที่เหมาะสมที่สุดในการป้องกันทั้งทางด้านสุขภาพคนและสุขภาพสัตว์ CFIA ได้ขอให้สัตวแพทย์และเจ้าของฟาร์ม ได้เพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ เพื่อที่จะจำกัดความเสี่ยงต่อสุกร ความปลอดภัยทางด้านอาหารไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องด้วยเชื้อไข้หวัดใหญ่นี้ไม่สามารถติดต่อได้เมื่อทำให้สุกแล้ว ตามที่องค์การอนามัยโรคและองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติแนะนำ เนื้อสุกรดิบนั้น ควรได้รับการปรุงสุกอย่างถูกต้องเพื่อที่จะกำจัดความกังวลต่อการบริโภค โรคไข้หวัดใหญ่ในสุกรคืออะไร ?
โรคไข้หวัดใหญ่ในสุกรคือโรคระบาดทางระบบทางเดินหายใจในสุกร โดยพบการระบาดได้ทั่วในทวีปอเมริกาเหนือและใต้ ทวีปเอเชีย และทวีปยุโรป เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตรวจพบได้ทั่วไปในสุกร และสามารถติดต่อไปยังคน สัตว์ปีก หรือสุกรอื่นได้ ไม่ค่อยพบการติดต่อของโรคจากสุกรไปยังคน การจะติดต่อได้นั้นต้องมีการสัมผัสอย่างใกล้ชิดกับสุกรป่วย อย่างไรก็ตาม CFIA กำลังศึกษาถึงระยะความเสี่ยงที่เป็นไปได้ของการติดต่อระหว่างคนและสัตว์ เพื่อที่จะได้ใช้มาตรการที่เหมาะสมในการป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสในขณะปฏิบัติงาน CFIA ได้กำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานในระดับภูมิภาคในการเฝ้าติดตามฝูงสุกร และสนับสนุนให้เจ้าของฟาร์มเข้มงวดในมาตรการต่างๆ ในการป้องกันโรค อาการในสุกรเป็นอย่างไร? อาการของโรคไข้หวัดใหญ่ในสุกรประกอบด้วย มีไข้ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ไอ จาม มีน้ำมูก หายใจลำบาก แท้ง จะป้องกันโรคในสุกรได้อย่างไร?
มาตรการที่ใช้ในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ในสุกรมีดังต่อไปนี้
• การฉีดวัคซีนในสัตว์ ให้คนงานในฟาร์มรักษาสุขอนามัย เข้มงวดการดำเนินการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ จัดการระบบการไหลเวียนอากาศในโรงเรือนที่ดีพอ ตรวจหาและแยกสัตว์ป่วยให้เร็วที่สุด
ข้อแนะนำอะไรสำหรับเจ้าของฟาร์มในการจำกัดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโรค?
การควบคุมการสัมผัสโรค:
• คนที่แสดงอาการป่วยในระบบทางเดินหายใจควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์
• คนงานในฟาร์มสุกรที่เคยสัมผัสกับเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่หรือได้รับการตรวจวินิจฉัยว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ควรจะหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ จนกระทั่งได้รับการตรวจจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแล้ว
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสสุกรภายนอก
• ควบคุมและจำกัดผู้เข้ามีเยี่ยมฟาร์ม
• ผู้มาเยี่ยมฟาร์มควรสวมรองเท้าบู๊ท ชุดคลุม ถุงมือ และล้างมือให้สะอาดในขณะเข้าและออก
• ป้องกันสัตว์อื่นเข้ามาในฝูงสุกร
• บันทึกการเข้าออกของคน สัตว์และเครื่องมือ การแยกสัตว์
• ควรรู้แหล่งของสัตว์ที่นำเข้ามาใหม่ และจำกัดความถี่ของการนำสัตว์ใหม่เข้ามาในฝูง
• ควรแยกโรงเรือนของสุกรแรกเกิด สุกรหย่านม สุกรขุน และสุกรพันธุ์
• การนำสุกรเข้าออกฟาร์มควรเป็นระบบ all-in-all-out การสุขาภิบาล
• ทำความสะอาดและทำลายเชื้อโรคเครื่องมือ อุปกรณ์ ชุด และโรงเรือนอย่างสม่ำเสมอ
• แยกพื้นที่สะอาดสำหรับยานพาหนะและอุปกรณ์ต่าๆ
• กำจัดซากสุกรที่ตายทันทีเพื่อลดโอกาสของการแพร่โรค
• หลีกเลี่ยงการยืมอุปกรณ์และยานพาหนะจากฟาร์มอื่น การจัดการสุขภาพของฝูงสุกร
• เฝ้าติดตามสุขภาพของฝูงสุกรทุกวัน และจ้างสัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์ม
• ทำเครื่องหมายประจำฝูงเพื่อจุดประสงค์ในการตรวจสอบย้อนกลับ (ทั้งแหล่งที่มาและแหล่งที่ขายไป)
• ปรึกษาสัตวแพทย์ในการพิจารณาใช้วัคซีน
• แยกสัตว์ป่วยและรายงานอาการป่วยไปยังสัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์มหรือหน่วยงาน CFIA ที่ใกล้ที่สุดทันที จัดโปรแกรมในฟาร์ม
• ฝึกอบรมคนงานทั้งหมดให้มีความรู้ในเรื่องระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ และติดตามประสิทธิภาพของมัน
• ติดตามสภาวะของโรคต่างๆ ในพื้นที่ และปรับระบบความปลอดภัยทางชีวภาพตามนั้น
• แนะนำคนงานในฟาร์มให้ทำวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ (จุดประสงค์เพื่อลดจำนวนเชื้อไวรัสที่แพร่)
ข้อแนะนำสำหรับสัตวแพทย์ที่จะเข้าไปสอบสวนโรคในระบบทางเดินหายใจของสุกรคืออะไร?
• เตรียมการและวางแผนในการตรวจเยี่ยมฟาร์มล่วงหน้า
• จอดรถในพื้นที่ที่ฟาร์มจัดเตรียมไว้ หรือให้ห่างจากสัตว์ให้มากที่สุด
• ทำสมุดตรวจเยี่ยมฟาร์ม
• ใช้ชุดและอุปกรณ์ป้องกันตัวที่เหมาะสม เช่น หน้ากาก N95, ถุงมือ, ชุดป้องกัน, รองเท้า, และ แว่นตา
• ล้างมือให้สะอาดภายหลังจากที่จับสัตว์
• ทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องมือและยานพาหนะ
• กำจัดชุดป้องกันด้วยวิธีที่ถูกต้องปลอดภัย ดังนี้
1. ทิ้งไว้ในฟาร์มเพื่อที่จะกำจัดได้อย่างเหมาะสม หรือ
2. ทิ้งในถังสำหรับใส่อุปกรณ์ปนเปื้อนเพื่อขนย้ายต่อไปยังสำนักงาน
• จัดลำดับของการทำงานโดยคำนึงถึงงานที่เสี่ยงน้อยที่สุด และต่อจากนั้นก็ไปสังเกตสัตว์ป่วย
• หลีกเลี่ยงหรือลดการสัมผัสกับที่เก็บสิ่งปฏิกูล เก็บอาหาร และเก็บน้ำ
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2552 นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดกรวยและกล่าวถวายพระพร สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมทั้งมอบรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดผลผลิตทางการเกษตร อาทิเช่น ข้าวพันธุ์หอมมะลิ 105 มะพร้าวพันธุ์กลาง ส้มโอพันธุ์ขาวแตงกวา กล้วยน้ำว้า ฯลฯ โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี กล่าวต้อนรับและรายงานการจัดงาน ณ สำนักงานเทศบาลตำบลหนองฉาง หมู่ 5 ตำบลหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ ( วันที่ 28 กรกฎาคม 2552 ) ซึ่งในปีนี้ได้กำหนดจัดงานพร้อมกันในทุกภูมิภาค รวม 4 จังหวัด คือ จ.อุทัยธานี จ.ขอนแก่น จ.พิษณุโลก และ จ.สงขลา ในการนี้ ประธานในพิธีได้เยี่ยมชมการให้บริการคลินิกกฎหมาย และกิจกรรมการแสดงต่าง ๆ ภายในงาน และพร้อมให้เกียรติมอบ ส.ป.ก.4-01 แก่เกษตรกรที่เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน หมู่ 14,15 ตำบลตลุกดู่ อำเภอทัพทัน รวม 53 ราย โดยมี นายเฉลิมพร พิรุณสาร เลขาธิการ ส.ป.ก. ให้การต้อนรับและกล่าวรายงานสรุปผลการดำเนินงานที่ผ่านมา แก่ประธานในพิธี พร้อมทั้งนำคณะผู้บริหาร เยี่ยมชมงาน นิทรรศการงานปฏิรูปที่ดินและพบปะเกษตรกรด้วย
รับสมัครผู้เข้าอบรมโครงการต้นกล้าอาชีพ
จดทะเบียนเครื่องหมายทำอย่างไร

1. เครื่องหมายของท่านซ้ำกับของผู้อื่นหรือไม่
ท่านสามารถตรวจสอบความเหมือนคล้ายว่าเหมือนหรือคล้ายกับของผู้อื่นที่ยื่นจดทะเบียนไว้ก่อนใน
สินค้าประเภทเดียวกันหรือไม่ โดยยื่นคำขอและชำระค่าธรรมเนียม 100 บาท ต่อชั่วโมง (ท่านจะต้องตรวจ-
ด้วยตนเอง) ณ กรมทรัพย์สินทางปัญญา
2. จะใช้แบบพิมพ์อะไร
แบบพิมพ์
* ก.01 ขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า/บริการเครื่องหมายร่วม, เครื่องหมายรับรอง และ ก.16
* ก.07 ขอต่ออายุ และ ก.17
3. จัดเตรียมคำขออย่างไร
3.1 กรอกข้อความในแบบพิมพ์ (ก.01 หรือ ก.07) โดยใช้เครื่องพิมพ์ และลงลายมือชื่อเจ้าของ
หรือตัวแทนก่อนที่จะปิดรูปเครื่องหมายลงในแบบพิมพ์ ให้ถ่ายสำเนา 10 แผ่นแล้วปิดรูปเครื่องหมายที่
ชัดเจน และมีขนาดกว้างยาวไม่เกิน 5 เซนติเมตร ทุกแผ่น แผ่นละหนึ่งรูป รวมต้นฉบับเป็น 11 แผ่น
3.2 กรอกข้อความในการ์ด (ก.16 หรือ ก.17 โดยใช้เครื่องพิมพ์) และข้อความทั้งหมดต้องตรง
กับแบบพิมพ์ ก.01 หรือ ก.07 ทุกรายการ รวม 2 แผ่น พร้อมปิดรูปเครื่องหมายทุกแผ่น
4. คำขอจดทะเบียน 1 คำขอ ประกอบด้วย
4.1 ต้นฉบับคำขอ ก. 01 จำนวน 1 แผ่น
4.2 สำเนาคำขอ ก. 01 จำนวน 5 แผ่น
4.3 การ์ด (บัตรแข็ง) ก. 16 จำนวน 2 แผ่น
4.4 ภาพถ่ายบัตรประจำตัวเจ้าของเครื่องหมาย ในกรณีเป็นบุคคลธรรมดาหรือต้นฉบับหนังสือ-
รับรองนิติบุคคลที่นายทะเบียนออกให้ไม่เกิน 6 เดือน นับจนถึงวันยื่นขอในกรณีเป็นนิติบุคคล
4.5 รูปเครื่องหมายที่ยื่นขอจดทะเบียน 10 รูป
4.6 ภาพถ่ายหนังสือมอบอำนาจซึ่งถ่ายจากต้นฉบับที่ติดอากร 30 บาท ต่อผู้รับมอบอำนาจ 1 คน
พร้อมขีดฆ่าอากรตามประมวลรัษฎากร และภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
(ถ้ามีการมอบอำนาจ)
5. ค่าธรรมเนียม
* ยื่นคำขอจดทะเบียนสินค้า/บริการ อย่างละ 500 บาท
* เมื่อรับจดทะเบียน สินค้า/บริการ อย่างละ 300 บาท
* ยื่นคำขอต่ออายุ สินค้า/บริการ อย่างละ 1,000 บาท
6. การคุ้มครองเครื่องหมาย
เครื่องหมายที่จดทะเบียนแล้วมีอายุการคุ้มครอง 10 ปี นับแต่วันยื่นคำขอจดทะเบียน และต่ออายุ
ได้คราวละ 10 ปี
7. การยื่นคำขอต่ออายุ
ให้ใช้แบบพิมพ์ ก. 07 และ ก. 17 และวิธีจัดทำคำขอ เช่นเดียวกับ ก. 01 กรณีตั้งตัวแทนใหม่
ให้ยื่น ก. 06 ด้วย
8. สถานที่ยื่นคำขอ
* กองบริการและเผยแพร่ กรมทรัพย์สินทางปัญญา
* สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด