เมื่อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระบาดเข้ามาในบ้านเรา วันนี้ขอเสนอ วิธีการป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด นั่นคือ การล้างมือ วิธีง่ายๆ ที่ทำได้ด้วยตัวเอง และหลายๆ คนมองข้าม ฝึกให้เป็นกิจวัตรประจำวัน เพื่อสุขภาพที่ดีของเรา
การป้องกัน
1. การป้องกันทั่วไป ควรหลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชนหรือสถานที่แออัด รักษาสุขภาพให้แข็งแรง ล้างมือบ่อยๆ กรมควบคุมโรคได้เปิดศูนย์ call acenter ให้ประชาชนสอบถามสถานการณ์ของโรคได้ที่หมายเลข 0-2590-3333
2. เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่มีการแพร่ติดต่อเช่นเดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่ในคนโดยทั่วไป เชื้อที่อยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย แพร่ไปยังผู้อื่นโดยการไอหรือจามรดกันในระยะใกล้ชิด หรือติดจากมือ และสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ และเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูก และตา เช่น การแคะจมูก การขยี้ตา ไม่ติดต่อจากการรับประทานเนื้อหมู ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้สูง ปวดเมื่อยตามร่างกาย ไอ มีน้ำมูก หากป่วย และมีอาการดังกล่าว ควรสวมหน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชน หรือสถานที่แออัด ประชาชนทั่วไปควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผัก ผลไม้ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่ งดดื่มเหล้า ล้างมือบ่อยๆ

สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ตอบรับมาตรการ “เฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ในสถานที่ราชการ” ของกระทรวงแรงงาน ตรวจวัดอุณหภูมิเจ้าหน้าที่และผู้ที่มาติดต่อราชการ หากมีอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศา กรณีเจ้าหน้าที่ให้กลับบ้านได้ โดยไม่ถือเป็นวันลา กรณีผู้มาติดต่อให้รอเจ้าหน้าที่มาให้บริการ ณ จุดบริการที่กำหนด ย้ำ! ผู้ประกันตน หากมีอาการไข้รีบพบแพทย์ สามารถรับสิทธิการรักษาพยาบาลจากกองทุนประกันสังคมได้
สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ดำเนินการ มาตรการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ในสถานที่ราชการ ตรวจวัดอุณหภูมิเจ้าหน้าที่ และผู้ที่มาติดต่อราชการก่อนขึ้นอาคาร หากมีอุณหภูมิสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส กรณีเจ้าหน้าที่ให้กลับบ้านและไปพบแพทย์ได้โดยไม่ถือเป็นวันลา กรณีผู้ที่มาติดต่อราชการให้นั่งรอเจ้าหน้าที่มารับบริการ ณ จุดบริการที่กำหนด เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ในสถานที่ราชการและขอความร่วมมือสถานประกอบการควรจัดให้มีการตรวจอุณหภูมิร่างกาย ลูกจ้างผู้ประกันตนทุกวันก่อนเข้าทำงาน หากมีอุณหภูมิสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
ทั้งนี้ ผู้ประกันตนที่มีอาการ ไข้สูง ปวดศีรษะ เจ็บคอ ไอ หายใจลำบาก หอบเหนื่อย ควรรีบไปพบแพทย์ ที่สถานพยาบาล ตามบัตรรับรองสิทธิฯ เพื่อทำการตรวจรักษา หากพบว่า ผู้ประกันตนป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และแพทย์ผู้รักษาวินิจฉัยให้ยาต้านไวรัส โอลเซลทามิเวียร์ ผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิการรักษาพยาบาล กรณีเจ็บป่วยจากกองทุนประกันสังคมได้
หากผู้ประกันตนมีข้อสงสัย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขาทั่วประเทศ หรือ โทร.1506 ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง ให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุด ตั้งแต่เวลา 07.00 – 19.00 น.หรือติดต่อระบบโทรศัพท์ ตอบรับอัตโนมัติให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง หรือดูรายละเอียดได้ที่
www.sso.go.th
นางเตือนใจ พงษ์สุวรรณ แรงงานจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า “ศูนย์บริการร่วมกระทรวงแรงงาน จังหวัดปทุมธานี” จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ดำเนินงานตามภารกิจของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน แบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว เพื่อช่วยให้เข้าถึงบริการได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว และเป็นการอำนวยความสะดวก แก่ผู้ใช้บริการโดยไม่ต้องเดินทางไปติดต่อยังหน่วยงานต่าง ๆ ตอบสนองความต้องการของประชาชน เพิ่มความพึงพอใจแก่ประชาชนในการรับบริการ
ประชาชนทั่วไป ลูกจ้าง นายจ้าง ติดต่อขอรับบริการ ด้านแรงงาน ได้ที่ศูนย์บริการร่วมกระทรวงแรงงาน จังหวัดปทุมธานี ห้างเจเวนิว ช๊อปปิ้ง เซ็นเตอร์ ชั้น 3 นิคมอุตสาหกรรมนวนคร โดยเปิดให้บริการในวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 0-2529-4332

รางวัลดีเด่น
นายอรรถ อินทลักษณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรรับโล่เกียรติยศจากพลตำรวจเอกเภาสารสิน ซึ่งเป็นประธานในพิธีเปิดงานวันมูลนิธิพันเอก จินดา ณ สงขลา เนื่องในโอกาสที่กรมส่งเสริมการเกษตรได้รับรางวัลส่วนราชการส่งเสริมการบริหารทรัพยากรบุคคลดีเด่น ปี2552 จาก มูลนิธิพันเอกจินดา ณ สงขลา เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552 ณ ห้องประชุมจินดา
ณ สงขลา สำนักงาน ก.พ. จังหวัดนนทบุรีส่วนราชการที่ได้รับการคัดเลือกฯ
ในปี 2552 มีจำนวน 8 ส่วนราชการ จากทั้งหมด 149 ส่วนราชการเหตุผลที่กรมส่งเสริมการเกษตรได้รับการคัดเลือกให้เป็นส่วนราชการส่งเสริมการบริหารทรัพยากรบุคคลดีเด่นปี 2552 เนื่องจาก สามารถออกคำสั่งแต่งตั้ง
ข้าราชการเข้าดำรงตำแหน่งในระบบใหม่ตามพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ได้ภายในวันที่ 11 ธันวาคม 2551 ซึ่งเป็นวันแรกที่ประกาศใช้ระบบจำแนกตำแหน่งและค่าตอบแทนระบบใหม่
กรมส่งเสริมการเกษตรเร่งพัฒนาเด็ก เยาวชนและยุวเกษตรกรรุ่นใหม่ เตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ขาดแคลนเกษตรกรในอนาคต และทดแทนรุ่นเก่าเกษียณตัวเอง ส่งเสริมการจัดตั้งกลุ่มยุวเกษตรกรแล้วทั้งสิ้น 6,657 กลุ่ม สมาชิกว่า 100,000 รายทั่วประเทศ
วันนี้ (27 ก.ค.52) นายอรรถ อินทลักษณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ได้มอบหมายให้นางสาวพิมลศิริ ธารามาศ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ประจำสำนักพัฒนาเกษตรกร กรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ พาเยาวชนเกษตรและผู้นำเยาวชนเกษตรจากประเทศต่างๆได้แก่ สาธารณรัฐเกาหลี จำนวน 4 คน ญี่ปุ่น จำนวน 13 คน ฟิลิปปินส์ จำนวน 4 คน อินเดีย จำนวน 1 คน ภูฎาน จำนวน 2 คน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จำนวน 2 คน
รวมทั้งเยาวชนเกษตร ยุวเกษตรกรและผู้รับผิดชอบงานยุวเกษตรไทยอีกจำนวน 11 คน ที่เข้าร่วมโครงการสัมมนาและฝึกอบรม ศึกษาดูงานเยาวชนเกษตรนานาชาติปี 2552 มายัง สวนนงนุชพัทยา ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี นางสาว เยาวลักษณ์ กิ่มแสง ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ และนำพาเยี่ยมชมพันธุ์ไม้ดอก ไม้ประดับ สวยงามต่าง ๆ และนำพาเข้าชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค การทำยุทธหัตถีของบรรพชนไทยในสมัยพระนเรศวรมหาราชและสามารถกอบกู้อธิปไตยของแผ่นดินสยามไว้ได้จนถึงทุกวันนี้
นางสาวพิมลศิริ ธารามาศ เปิดเผยว่า การจัดให้มีการสัมมนาและฝึกอบรม เกษตรรุ่นใหม่ให้มีความรู้ทั้งในภาคทฤษฎีและปฏิบัติเพื่อให้สามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรมและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเกษตรกรรายอื่น เพื่อให้เกิดการพัฒนาเกษตรที่ยั่งยืน เป็นหนึ่งในแผนพัฒนาภายใต้นโยบายปรับโครงสร้างเศรษฐกิจภาคการเกษตรของรัฐบาล ในส่วนของกระทรวงเกษตร
ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรเร่งพัฒนาเด็ก เยาวชนและยุวเกษตรกร เพื่อสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ขึ้นมาทดแทนรุ่นเดิมที่ต้องเกษียณตัวเอง เตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ขาดแคลนเกษตรกรในอนาคต ซึ่งในปัจจุบันได้ส่งเสริมการจัดตั้งกลุ่มยุวเกษตรกรแล้วทั้งสิ้น 6,657 กลุ่ม มีสมาชิกว่า 100,000 รายทั่วประเทศ ขณะเดียวกันยังได้สร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเยาวชนเกษตรไทยกับต่างประเทศด้วย
เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และประสบการณ์ด้านการพัฒนาเยาวชนทางด้านการเกษตรและยุวเกษตรกร รวมถึงความรู้ด้านการเกษตรและวัฒนธรรมประเพณีระหว่างทั้ง 7 ประเทศขณะเดียวกันก็ยังเป็นการเปิดโลกทัศน์แก่ผู้รับผิดชอบงานเยาวชนเกษตรของไทย พร้อมสร้างแรงจูงใจดึงดูดเยาวชนไทยที่มีศักยภาพและมีแรงศรัทธาในอาชีพเกษตรกรรมให้หันเข้าสู่ภาคการเกษตรเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเป็นก้าวแรกของการพัฒนาเพื่อนำไปสู่การเป็น ศูนย์ฝึกอบรมเยาวชนเกษตรนานาชาติในอนาคต
นอกจากนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ได้จัดโปรแกรมพิเศษสำหรับนักศึกษา เจ้าหน้าที่ / อาจารย์ วิทยาลัยเกษตรกรรมโคอิบูจิประเทศญี่ปุ่นจำนวน 27 คน ซึ่งอยู่ในโครงการแลกเปลี่ยนยุวเกษตรกรและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบยุวเกษตรกรกับประเทศไทย โดยจะนำไปฝึกอบรมและศึกษาดูงานแบบโฮมสเตย์กับครอบครัวเยาวชนเกษตรกรของไทยที่ผ่านการฝึกงานจากประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว เพื่อเปิดโอกาสให้ได้ศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิตการทำเกษตรของครอบครัวเกษตรกรไทยอีกด้วย