ชาวนาลุ้นได้เฮราคาประกันข้าวนาปี
เกษตรฯ เคาะราคาประกันข้าวนาปี นาปรัง ชาวนาได้เฮบวกกำไรเพิ่มจากต้นทุนและค่าขนส่งกว่า 40% มั่นใจสร้างเสถียรภาพด้านราคา เตรียมส่งลูกต่อให้กขช.พิจารณาพุธนี้
นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการผลิต ว่า คณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาแนวทางการประกันราคาและประกันภัยข้าวเปลือกตามมาตรข้าวปี 2552/2553 เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึงจากการประกันราคาข้าวเปลือก และแก้ไขความสามารถในการแข่งขันการส่งออกของประเทศ ซึ่งจากการหารือร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอาทิ สมาคมโรงสีข้าวไทย สมาคมชาวนาไทย ศูนย์ข้าวชุมชน ฯลฯ ได้กำหนดราคาประกันราคาข้าวเปลือกที่เหมาะสมโดยกำหนดหลักเกณฑ์จากต้นทุนการผลิตข้าวทั้ง 6 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 + กข 15 ข้าวหอมจังหวัด ข้าวปทุมธานี 1 ข้าวขาว ข้าวเหนียว และข้าวนาปรัง โดยใช้ข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ทำการสำรวจต้นทุนเฉลี่ยของการผลิตข้าวเปลือกทั่วประเทศในเดือนมิถุนายน รวมกับค่าขนส่งซึ่งเป็นข้อมูลจากกรมการข้าว เฉลี่ยตันละ 200 บาท และนำไปบวกเพิ่มกับกำไรที่คาดว่าเกษตรกรจะได้รับโดยข้าวนาปีคิดเพิ่ม 40% และข้าวนาปรังเพิ่ม 30% ซึ่งจะมีการนำข้อสรุปหลักเกณฑ์ราคาประกันราคาข้าวเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายข้าวพิจารณาในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันพุธที่ 29 กรกฎาคม 2552 นี้ต่อไป ทั้งนี้ การพิจารณาราคาประกันจะมีการเปรียบเทียบราคาต่อตันของชนิดข้าวในระดับความชื้นต่างๆ กับราคาประกันข้าวเปลือกมาตรฐานที่ระดับความชื้น 15% ตามประเภทข้าวทั้ง 6 ชนิดด้วยกันได้แก่ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 + กข 15 ต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 10,752 บาท/ตัน ค่าขนส่ง 200 บาท บวกผลกำไรเพิ่ม 40% ราคาประกันจะอยู่ที่ 15,300 บาท/ตัน ข้าวหอมจังหวัดราคาประกันอยู่ที่ 14,800 บาท/ตัน ข้าวปทุมธานี 1 ราคาประกัน 10,000 บาท/ตัน ข้าวขาว ราคาประกัน 10,000 บาท/ตัน ข้าวเหนียว ราคาประกัน 13,400 บาท/ตัน และข้าวนาปรังราคาประกัน 9,200 บาท/ตัน ซึ่งหากเกณฑ์ระดับความชื้นของข้าวมีมากขึ้นราคาประกันก็จะมีสัดส่วนที่ลดลงไป นายธีระ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกับกระทรวงเกษตรฯแล้ว ซึ่งขณะนี้ความคืบหน้าในการจัดทำทะเบียนเกษตรกรมีความคืบหน้าแล้วประมาณ 35 % โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จทันฤดูกาลผลผลิตข้าวปลายปีนี้เพื่อให้เกษตรกรได้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการรับประกันราคาในจำนวน 16 ตัน/ครัวเรือน เพื่อให้เกษตรกรทั่วประเทศได้รับประโยชน์จากการประกันราคาข้าวอย่างทั่วถึง เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่ประมาณ 80 – 90%มีพื้นที่ทำนาข้าวเฉลี่ยไม่เกิน 40 ไร่ ด้านนายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เปิดเผยว่า โครงการประกันราคาข้าวถือเป็นมาตรการหนึ่งของรัฐบาลในการสร้างเสถียรภาพให้กับราคาข้าว เพื่อไม่ให้เกษตรกรถูกเอาเปรียบจากการถูกกดราคา และมีการพัฒนาคุณภาพข้าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากราคาข้าวไม่เป็นไปตามราคาประกัน ทางรัฐบาลจะมีการกำหนดราคาอ้างอิงโดยกระทรวงพาณิชย์เพื่อควบคุมให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาดซึ่งจะมีการติดตามข้อมูลด้านราคาและประเมินสถานการณ์ทุก 15 วัน เพื่อหามาตรการรองรับหากพบว่ามีการบิดเบือนตลาดหรือราคาไม่มีเสถียรภาพ