Jul
29

กรมส่งเสริมการเกษตรเร่งพัฒนาเด็กเตรียมรองรับสถานการณ์ขาดแคลนเกษตรกรในอนาคต

ยุวเกษตรกร       กรมส่งเสริมการเกษตรเร่งพัฒนาเด็ก เยาวชนและยุวเกษตรกรรุ่นใหม่ เตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ขาดแคลนเกษตรกรในอนาคต และทดแทนรุ่นเก่าเกษียณตัวเอง ส่งเสริมการจัดตั้งกลุ่มยุวเกษตรกรแล้วทั้งสิ้น 6,657 กลุ่ม สมาชิกว่า 100,000 รายทั่วประเทศ
       
       วันนี้ (27 ก.ค.52) นายอรรถ อินทลักษณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ได้มอบหมายให้นางสาวพิมลศิริ ธารามาศ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ประจำสำนักพัฒนาเกษตรกร กรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ พาเยาวชนเกษตรและผู้นำเยาวชนเกษตรจากประเทศต่างๆได้แก่ สาธารณรัฐเกาหลี จำนวน 4 คน ญี่ปุ่น จำนวน 13 คน ฟิลิปปินส์ จำนวน 4 คน อินเดีย จำนวน 1 คน ภูฎาน จำนวน 2 คน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จำนวน 2 คน
       
       รวมทั้งเยาวชนเกษตร ยุวเกษตรกรและผู้รับผิดชอบงานยุวเกษตรไทยอีกจำนวน 11 คน ที่เข้าร่วมโครงการสัมมนาและฝึกอบรม ศึกษาดูงานเยาวชนเกษตรนานาชาติปี 2552 มายัง สวนนงนุชพัทยา ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี นางสาว เยาวลักษณ์ กิ่มแสง ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ และนำพาเยี่ยมชมพันธุ์ไม้ดอก ไม้ประดับ สวยงามต่าง ๆ และนำพาเข้าชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค การทำยุทธหัตถีของบรรพชนไทยในสมัยพระนเรศวรมหาราชและสามารถกอบกู้อธิปไตยของแผ่นดินสยามไว้ได้จนถึงทุกวันนี้
       
       นางสาวพิมลศิริ ธารามาศ เปิดเผยว่า การจัดให้มีการสัมมนาและฝึกอบรม เกษตรรุ่นใหม่ให้มีความรู้ทั้งในภาคทฤษฎีและปฏิบัติเพื่อให้สามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรมและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเกษตรกรรายอื่น เพื่อให้เกิดการพัฒนาเกษตรที่ยั่งยืน เป็นหนึ่งในแผนพัฒนาภายใต้นโยบายปรับโครงสร้างเศรษฐกิจภาคการเกษตรของรัฐบาล ในส่วนของกระทรวงเกษตร
       
       ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรเร่งพัฒนาเด็ก เยาวชนและยุวเกษตรกร เพื่อสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ขึ้นมาทดแทนรุ่นเดิมที่ต้องเกษียณตัวเอง เตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ขาดแคลนเกษตรกรในอนาคต ซึ่งในปัจจุบันได้ส่งเสริมการจัดตั้งกลุ่มยุวเกษตรกรแล้วทั้งสิ้น 6,657 กลุ่ม มีสมาชิกว่า 100,000 รายทั่วประเทศ ขณะเดียวกันยังได้สร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเยาวชนเกษตรไทยกับต่างประเทศด้วย
       
       
เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และประสบการณ์ด้านการพัฒนาเยาวชนทางด้านการเกษตรและยุวเกษตรกร รวมถึงความรู้ด้านการเกษตรและวัฒนธรรมประเพณีระหว่างทั้ง 7 ประเทศขณะเดียวกันก็ยังเป็นการเปิดโลกทัศน์แก่ผู้รับผิดชอบงานเยาวชนเกษตรของไทย พร้อมสร้างแรงจูงใจดึงดูดเยาวชนไทยที่มีศักยภาพและมีแรงศรัทธาในอาชีพเกษตรกรรมให้หันเข้าสู่ภาคการเกษตรเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเป็นก้าวแรกของการพัฒนาเพื่อนำไปสู่การเป็น ศูนย์ฝึกอบรมเยาวชนเกษตรนานาชาติในอนาคต
       
       นอกจากนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ได้จัดโปรแกรมพิเศษสำหรับนักศึกษา เจ้าหน้าที่ / อาจารย์ วิทยาลัยเกษตรกรรมโคอิบูจิประเทศญี่ปุ่นจำนวน 27 คน ซึ่งอยู่ในโครงการแลกเปลี่ยนยุวเกษตรกรและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบยุวเกษตรกรกับประเทศไทย โดยจะนำไปฝึกอบรมและศึกษาดูงานแบบโฮมสเตย์กับครอบครัวเยาวชนเกษตรกรของไทยที่ผ่านการฝึกงานจากประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว เพื่อเปิดโอกาสให้ได้ศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิตการทำเกษตรของครอบครัวเกษตรกรไทยอีกด้วย

Jul
29

ตราสัญลักษณ์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ความหมายของตราสัญญาลักษณ์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม                     

 images

 

          1. รูปทรงของสัญลักษณ์ที่เป็นโล่ หมายถึง การปกป้อง การป้องกัน ซึ่งในหลายประเทศนิยมใช้รูปทรงโล่ แทนทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม 
          2. ต้นโพธิ์ และแผ่นดิน 
              ต้นโพธิ์ หมายถึง ต้นไม้ หรือ โพธิ์ทองของชาวไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่เรายึดมั่น 
              ใบไม้ หมายถึง ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เกื้อกูลมนุษย์เพราะมีการสังเคราะห์แสง (photosynthesis) รวมทั้งเป็นปุ๋ยที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิตในโลกด้วย 
              แผ่นดิน หมายถึง ความเชื่อมต่อระหว่างต้นไม้ที่ต้องพึ่งพาดิน ดินต้องได้รับปุ๋ยจากต้นไม้ ภาพนี้เป็นตัวแทนของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) กรมป่าไม้ (ปม.) องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) และกรมทางด้านสิ่งแวดล้อมทั้งหมด คือ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) และกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) 
          3. ช้าง 2 เชือก เป็น ช้างเพศเมีย (แม่) และลูกช้าง หมายถึง สัตว์ป่า ความเข้มแข็ง การดำรงพันธุ์ ความเมตตาของแม่ที่มีต่อลูก ลูกช้างเป็นช้างเผือก หมายถึง ความเป็นพิเศษ เป็นตัวแทน อส. โดยเฉพาะเรื่องของสัตว์ป่า อ.อ.ป. (เรื่อง คชบาล) และองค์การสวนสัตว์ (อสส.) 
          4. ปลาโลมา หมายถึง มีการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม (adaptation) วิวัฒนาการ (evolution) เฉลียวฉลาด ปลาโลมา ทะเล ชายฝั่ง และ หาดทราย แทนกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) ในส่วนของอุทยานแห่งชาติทางทะเล สำหรับคลื่นน้ำจืด แทน กรมทรัพยากรน้ำ (ทน.) กรมทรัพยากรน้ำบาดาล (ทบ.) และองค์การจัดการน้ำเสีย (อจน.) 
          5. พระอาทิตย์ หมายถึง ผู้ก่อให้เกิดธรรมชาติและทุกสรรพสิ่ง เป็นอำนาจ พลังงาน ที่สะอาดและบริสุทธิ์ (Clean Development Mechanism) และสิ่งแวดล้อม จึงเป็นตัวแทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (ทส.) 
          6. เพชร หมายถึง ความแข็งแกร่ง ความมีค่า สะอาด บริสุทธิ์ เป็นแร่ชนิดหนึ่งแทนกรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) 
          7. หยดน้ำ หมายถึง ความสะอาดบริสุทธิ์ ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แทนกรมทรัพยากรน้ำ (ทน.) และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล (ทบ.) 
          8. ลายไทย หมายถึง ความเป็นไทย 
          9. มณฑป แสดงถึง ความเป็นไทย ปลายแหลม หมายถึง ความแหลมคม สามารถทะลุทะลวงปัญหาได้ 
          10. ลูกโลก เป็นโลกใบเดียวกันแต่มี 2 ด้าน ด้านตะวันออก (ประเทศไทย) และด้านตะวันตก ลูกโลกทั้ง 2 ด้าน มีไม้ค้ำ หมายถึง เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องของทั้งโลก และประเทศไทยค้ำจุนโลกใบนี้ไว้ทั้งโลก โลกมีสีฟ้า หมายถึง สิ่งแวดล้อม ที่สะอาดและบริสุทธิ์ 
          11. ผ้าคลุมโล่ หมายถึง การปกป้องโลก เสมือนบรรยากาศปกคลุมโลก 
          12. สีเขียว หมายถึง สิ่งแวดล้อม

Jul
28

ชาวนาลุ้นได้เฮราคาประกันข้าวนาปี

เกษตรฯ เคาะราคาประกันข้าวนาปี นาปรัง ชาวนาได้เฮบวกกำไรเพิ่มจากต้นทุนและค่าขนส่งกว่า 40% มั่นใจสร้างเสถียรภาพด้านราคา เตรียมส่งลูกต่อให้กขช.พิจารณาพุธนี้

 

นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการผลิต ว่า คณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาแนวทางการประกันราคาและประกันภัยข้าวเปลือกตามมาตรข้าวปี 2552/2553 เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึงจากการประกันราคาข้าวเปลือก และแก้ไขความสามารถในการแข่งขันการส่งออกของประเทศ ซึ่งจากการหารือร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอาทิ สมาคมโรงสีข้าวไทย สมาคมชาวนาไทย ศูนย์ข้าวชุมชน ฯลฯ ได้กำหนดราคาประกันราคาข้าวเปลือกที่เหมาะสมโดยกำหนดหลักเกณฑ์จากต้นทุนการผลิตข้าวทั้ง 6 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 + กข 15 ข้าวหอมจังหวัด ข้าวปทุมธานี 1 ข้าวขาว ข้าวเหนียว และข้าวนาปรัง โดยใช้ข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ทำการสำรวจต้นทุนเฉลี่ยของการผลิตข้าวเปลือกทั่วประเทศในเดือนมิถุนายน รวมกับค่าขนส่งซึ่งเป็นข้อมูลจากกรมการข้าว เฉลี่ยตันละ 200 บาท และนำไปบวกเพิ่มกับกำไรที่คาดว่าเกษตรกรจะได้รับโดยข้าวนาปีคิดเพิ่ม 40% และข้าวนาปรังเพิ่ม 30% ซึ่งจะมีการนำข้อสรุปหลักเกณฑ์ราคาประกันราคาข้าวเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายข้าวพิจารณาในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันพุธที่ 29 กรกฎาคม 2552 นี้ต่อไป ทั้งนี้ การพิจารณาราคาประกันจะมีการเปรียบเทียบราคาต่อตันของชนิดข้าวในระดับความชื้นต่างๆ กับราคาประกันข้าวเปลือกมาตรฐานที่ระดับความชื้น 15% ตามประเภทข้าวทั้ง 6 ชนิดด้วยกันได้แก่ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 + กข 15 ต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 10,752 บาท/ตัน ค่าขนส่ง 200 บาท บวกผลกำไรเพิ่ม 40% ราคาประกันจะอยู่ที่ 15,300 บาท/ตัน ข้าวหอมจังหวัดราคาประกันอยู่ที่ 14,800 บาท/ตัน ข้าวปทุมธานี 1 ราคาประกัน 10,000 บาท/ตัน ข้าวขาว ราคาประกัน 10,000 บาท/ตัน ข้าวเหนียว ราคาประกัน 13,400 บาท/ตัน และข้าวนาปรังราคาประกัน 9,200 บาท/ตัน ซึ่งหากเกณฑ์ระดับความชื้นของข้าวมีมากขึ้นราคาประกันก็จะมีสัดส่วนที่ลดลงไป นายธีระ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกับกระทรวงเกษตรฯแล้ว ซึ่งขณะนี้ความคืบหน้าในการจัดทำทะเบียนเกษตรกรมีความคืบหน้าแล้วประมาณ 35 % โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จทันฤดูกาลผลผลิตข้าวปลายปีนี้เพื่อให้เกษตรกรได้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการรับประกันราคาในจำนวน 16 ตัน/ครัวเรือน เพื่อให้เกษตรกรทั่วประเทศได้รับประโยชน์จากการประกันราคาข้าวอย่างทั่วถึง เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่ประมาณ 80 – 90%มีพื้นที่ทำนาข้าวเฉลี่ยไม่เกิน 40 ไร่ ด้านนายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เปิดเผยว่า โครงการประกันราคาข้าวถือเป็นมาตรการหนึ่งของรัฐบาลในการสร้างเสถียรภาพให้กับราคาข้าว เพื่อไม่ให้เกษตรกรถูกเอาเปรียบจากการถูกกดราคา และมีการพัฒนาคุณภาพข้าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากราคาข้าวไม่เป็นไปตามราคาประกัน ทางรัฐบาลจะมีการกำหนดราคาอ้างอิงโดยกระทรวงพาณิชย์เพื่อควบคุมให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาดซึ่งจะมีการติดตามข้อมูลด้านราคาและประเมินสถานการณ์ทุก 15 วัน เพื่อหามาตรการรองรับหากพบว่ามีการบิดเบือนตลาดหรือราคาไม่มีเสถียรภาพ

Jul
28

กระทรวงเกษตรฯ เร่งเดินเครื่องพัฒนาพืชอาหารและพลังงานอย่างยั่งยืนและสมดุล เตรียมรับมือวิกฤติอาหารและพลังงานโลก

กระทรวงเกษตรฯ เร่งเดินเครื่องพัฒนาพืชอาหารและพลังงานอย่างยั่งยืนและสมดุล เตรียมรับมือวิกฤติอาหารและพลังงานโลก

          กระทรวงเกษตรฯ เร่งเดินเครื่องพัฒนาพืชอาหารและพลังงานอย่างยั่งยืนและสมดุล เตรียมรับมือวิกฤติอาหารและพลังงานโลก นายอภิชาติ จงสกุล โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลัง การประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการเรื่องอาหารและพลังงานเพื่อรองรับสถานการณ์วิกฤตอาหารและพลังงานโลก ซึ่งมี นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการศึกษาแนวทางพัฒนาพลังงานทดแทนเพื่อนำไปสู่ความมั่นคงทางด้านพลังงานของประเทศไทยในอนาคตควบคู่กับความมั่นคงทางด้านอาหาร จึงได้ศึกษาและจัดทำร่างความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเรื่องการพัฒนาพืชอาหารและพืชพลังงานอย่างยั่งยืนและสมดุลเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยคณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักในการรับความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำรายงานผลการพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวต่อไปว่า จากการประชุมคณะกรรมการบริหารฯ ในครั้งนี้ ที่ประชุมจึงมีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการ 1 ชุด ประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงาน ซึ่งคณะอนุกรรมการจะมีหน้าที่จัดทำร่างยุทธศาสตร์พลังงาน แนวทาง และมาตรการเกี่ยวกับพืชอาหารและพืชพลังงาน โดยนำข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มาประกอบการพิจารณาด้วย รวมทั้งพิจารณาข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารฯ และเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

Jul
28

การจ่ายเช็คช่วยชาติรอบที่ 2