ในอดีด เราจะพบการต่อ Storage 2 แบบ แบบแรกคือต่อเข้า Network กลางเลย โดยมี Client วิ่งอยู่ในวงด้วย ก็จะทำให้ทุก Client มองเห็น Storage ด้วย หรือ อีกแบบคือ การต่อแบบเอา Storage ต่อเข้าไปกับ Server ผ่าน USB หรืออะไรก็ตาม แล้วก็เอา Server นั้นต่อเข้าไปกับวง LAN ผ่านสาย LAN RJ45 ซึ่งปัจจุบัน Storage นั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ การใช้งาน Network ในองค์กรก็มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดคอขวดของ Traffic จึงเกิด Solution ใหม่เกิดขึ้นคือ SAN ซึ่งย่อมาจาก Storage Attach Network นั้นคือ แยก Storage ออกมาจากวง LAN โดยมาต่อข้างหลัง Server อีกที ซึ่ง Server หลายตัวก็จะต่อเข้ากับ Storage ผ่านเทคโนโลยี่ Fibre Channel (FC) ซึ่งมีความเร็วสูง ซึ่งทำให้รับส่งข้อมูลผ่าน Network ได้ด้วยความเร็วสูง
ทำไมต้อง SAN
เป็นสิ่งที่หลายๆคนถามกันว่า แล้วทำไมต้อง SAN ด้วยก็เอา Server ต่อกับ Storage ตู้นึงก็พอแล้ว หรือ เอาเครื่องมาใส่ๆๆๆ Storage ก็พอแล้ว มันก็ถูกต้องครับ สำหรับการต่อไม่มาก แต่ต้องไม่ลืมว่า ที่ผ่านมาเราประสบปัญหาว่า หาก Server ที่นำมาทำ Storage เสีย หรือ RAID Controller เสีย มันก็เดี้ยงไปเหมือนกัน ดังนั้นด้วยเทคโนโลยี่ SAN ถึงทำให้เกิด Solution ในจินตนาการ และนำมาเป็นจริงได้ เรามาดูข้อดีของ SAN กันว่าทำไมต้อง SAN ด้วย
- ลดประมาณ Disk : รู้ไหมว่า ปัญหาเดิมๆ กับการใช้ Disk ใน Server คือ คุณต้องเสีย Disk ปริมาณมากในการทำ RAID ทุกเครื่อง หรือ คุณต้องเพิ่ม Disk ทั้งๆที่อีกเครื่องยังมี Disk เหลือในเครื่องอื่น ทุกปัญหาเหล่านี้จะหายไป เพราะว่าเมื่อคุณรวม Disk ของทุก Server เข้าไปอยู่ที่ SAN คุณจะ Manage ทุกอย่างบนที่เดียวไม่ต้องเสีย Disk สำรองมากมาย เพราะเสียแค่ในตู้ SAN อย่างเดียว ช่วยลด Cost Disk ไปได้ อิอิ
- ลดคอขวด Network : การมี Storage Server มากๆ แล้ววิ่งอยู่ใน Network กลางบริษัท จะทำให้เกิดคอขวด ทำให้ Network ช้าได้ การต่อ SAN คือการเอา Server ทุกตัวมาต่อกับ Storage ผ่าน Fibre Channel แล้ว Server ก็ต่อผ่าน Network ทำให้ลด Traffic กลางได้ Read more »
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี จัดประชุมผู้ประกอบการร้านเกม ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานีและออกตรวจสถานประกอบการร้านเกมอินเตอร์เน็ตในทุกอำเภอโดยร่วมกับสาธารณสุขจังหวัด

ส.ป.ก.ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดภาวะคนว่างงาน เร่งเครื่องจัดที่ดินทำกินให้แรงงานคืนถิ่น 3.7 พันไร่นำร่องใน 23 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมเฟ้นหาเกษตรรุ่นใหม่ไฟแรงที่จบใหม่-ตกงานเข้าสู่โครงการบ่มเพาะแรงงานคืนถิ่นกลับเข้าสู่ภาคเกษตรกรรม
นายเฉลิมพร พิรุณสาร เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.)และคณะผู้บริหาร เดินทางลงพื้นที่นิคมเศรษฐกิจพอเพียง อ.ปลวกแดง จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นหนึ่งใน 23 จังหวัดนำร่อง ที่ส.ป.ก.เตรียมพื้นที่ไว้รองรับแรงงานคืนถิ่นและบัณฑิตเกษตร โดยหลังการพบปะกับเกษตรกรในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า ยังต้องมีการพัฒนาเรื่องน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งพื้นที่นี้ มีแหล่งน้ำคืออ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ แต่ยังขาดระบบการส่งน้ำ เลขาธิการส.ป.ก.จึงได้หารือกับผอ.สำนักชลประทาน ระยอง เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในปี 2553 นี้อย่างแน่นอน
เลขาฯส.ป.ก.กล่าวว่า ขณะนี้ส.ป.ก.มีความพร้อมจัดที่ดินรองรับแรงงานว่างงานและบัณฑิตเกษตร ที่ขึ้นทะเบียนร่วมโครงการบ่มเพาะแรงงานคืนถิ่นเขตปฏิรูปที่ดินระหว่างปี 2552-2553 โดยเป้าหมายสร้างเกษตรกรที่มีภาวะผู้นำ มีความคิดริเริ่มและพร้อมที่จะรับเทคโนโลยีการเกษตรตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรมอย่างยั่งยืน เพื่อรองรับปัญหาแรงงานและนักศึกษาที่จบใหม่เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจให้เข้าสู่ภาคเกษตรกรรม
ทั้งนี้ สปก.มีเป้าหมายที่จะดำเนินการจัดที่ดินรองรับโครงการสร้างและพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่รองรับแรงงานที่ถูกเลิกจ้างตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลรวม 3,752 ไร่ในพื้นที่ 23จังหวัด แบ่งเป็นพื้นที่ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย นครสวรรค์ พะเยา เพชรบูรณ์ และอุตรดิตถ์ ภาคอีสาน 7 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ นครพนม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ หนองคายและอุบลราชธานี ภาคกลาง 9 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี จันทบุรี ชัยนาท ปทุมธานี ระยอง ลพบุรี สุพรรณบุรี สระบุรีและฉะเชิงเทราและภาคใต้ 1 จังหวัดคือ สุราษฎร์ธานี โดยได้ทยอยดำเนินการรับสมัครทั่วประเทศ หลังจากนั้นกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานฯจะทำการเร่งคัดเลือกและจัดส่งบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกส่งให้ แล้วส.ป.ก.ก็จะนำเข้าสู่กระบวนการอบรมเพื่อเตรียม
